ทั่วโลกร่วมยินดี ผลการวิจัยพบว่า ยาฉีดคาโบทิกราเวียร์ช่วยป้องกันการตดิเชื้อเอชไอวีได้ผลดีในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและสาวประเภทสอง
คำกล่าวแสดงความยินดี โดย ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ประพันธ์ ภานุภาค
เมื่อได้ยินข่าวที่ประกาศทั่วโลกเมื่อวานนี้ว่า การทดสอบประสิทธิผลของยาฉีดคาโบทิกราเวียร์ในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีก่อนการสัมผัสเชื้อ (PrEP) ที่ประเทศไทยได้ร่วมวิจัยกับอีกหลายประเทศทั่วโลก ได้ผลออกมาก่อนกำหนดถึง 2 ปีพบว่ายาฉีดที่ฉีด 2 เดือนครั้งนี้ได้ผลในการป้องกนั การติดเชื้อเอชไอวีได้มากกว่ายาเพร็พแบบเม็ดที่ต้องกินทุกวัน และมีความปลอดภัยเท่าๆ กัน ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ผมต้องขอแสดงความยินดีกับคณะนักวิจัยไทยที่มาจากหลายสถาบันที่ทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อยมาตลอดระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมาในการทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทย โดยเรามีอาสาสมัครชาวไทยที่ร่วมอยู่ในโครงการคิดเป็น 12% ของทั่วโลก และที่สำคัญคือ หน่วยพรีเวนชั่นของศูนย์วิจัยโรคเอดส์สามารถรับอาสาสมัครที่เป็นหญิงข้ามเพศได้มากถึง 1 ใน 5 ของอาสาสมัครที่เป็นหญิงข้ามเพศทั้งโครงการทั่วโลก ทำให้น่าจะมีข้อมูลเพียงพอที่จะสรุปได้ว่ายาฉีดนี้ก็ใช้ได้ผลดีกับหญิงข้ามเพศด้วย ไม่ต้องเสียเวลามาทดสอบอีกรอบหนึ่ง
นอกจากนี้ต้องขอขอบคุณและชื่นชมอาสาสมัครทุกคนทั้งที่เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและหญิงข้ามเพศ ที่อาจหาญเข้าร่วมโครงการและอยู่กับโครงการมาอย่างตลอดรอดฝั่ง ทุกท่านได้ชื่อว่าทำบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ให้กับมนุษยชาติในการพิสูจน์ให้เห็นว่ายาฉีดคาโบทิกราเวียร์เป็นยาตัวที่สองที่สามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้ แม้ว่าเกือบ 40 ปีแล้วเรายังไม่มีวัคซีนเอชไอวีใช้แต่อย่างน้อยๆ เราก็มียาที่สามารถกินหรือฉีดป้องกันเอชไอวีได้ ซึ่งได้ผลเกือบ 100% เป็นทางเลือกหลายๆ ทางให้คนที่อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีให้เลือกใช้ได้ตามความสมัครใจ ตามวัย และตามสถานการณ์ซึ่งแต่ละคนแต่ละขณะไม่เหมือนกัน เช่น ถุงยางอนามัย ยาเพร็พแบบกิน หรือยาเพร็พแบบฉีด เป็นต้น
เราเคยได้ยินว่ายาเพร็พแบบกินได้ผลเกือบ 100% ตอนนี้มียาเพร็พแบบฉีด 2 เดือนครั้ง ได้ผลดียิ่งกว่าแบบกินเสียอีก ไม่ได้แปลว่า ตอนนี้ทุกคนที่กินเพร็พจะเปลี่ยนมาเป็นยาฉีดหมดแล้ว เพราะกว่ายาจะมีจำหน่ายคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง และราคาคงยังไม่ถูกเท่ายากินในระยะแรก แถมมีบางคนก็อาจกลัวเข็มด้วย บางคนอาจเสี่ยงนานๆ ครั้ง จึงอาจขอกินเพร็พแบบกินเมื่อต้องการ ไม่ต้องกินทุกวัน
เมื่อผลของการทดลองเป็นที่ประจักษ์แล้ว อาสาสมัครในโครงการทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ยาเพร็พแบบกิน หรือแบบฉีดทุกคนจะได้รับยาเพร็พแบบที่ต้องการฟรีจนกว่าจะจบโครงการ ในฐานะของรัฐซึ่งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้เริ่มโครงการให้เพร็พแบบกินฟรีแก่คนไทยแล้วตั้งแต่ต้นปีนี้ก็ต้องมาพิจารณาและต่อรองกับบริษัทที่ผลิตยาเพร็พแบบฉีดว่าสามารถขายยาฉีดคาโบทิกราเวียร์ให้กับรัฐในราคาที่ใกล้เคียงกับยาเพร็พแบบกินได้หรือไม่ เพื่อที่จะบรรจุเข้าในชุดสิทธิประโยชน์สำหรับคนไทยทุกคน สำหรับเป็นทางเลือกในการป้องกันเอชไอวีอีกทางหนึ่ง